สกรุ๊ปพิเศษ....เมืองร้อยเกาะ
กราบพระสักดิ์สิทธิ์ เยี่ยมเยือนเซียนดัง แวะชิมของดีดอนสัก
เยี่ยมบ้านคนรักนก ...ลุยเมืองหอยใหญ่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สุราษฎร์ธานี...เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย
หอยใหญ่ ไข่แดง(ไข่เค็มไชยา) แหล่งธรรมมะ
ชักพระประเพณี นี้คือที่มาของเมืองร้อยเกาะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ปักษาสวรรค์ เดินทางออกจากเมืองสุราษฎร์ (เมืองร้อยเกาะ) มุ่งหน้าสู่ อำเภอดอนสัก
เมืองหอยใหญ่
เยี่ยมบ้านคนรักนกแล้วไปไหว้พระคู่บ้าน คู่เมืองดอนสัก เสร็จแล้วไปชิมหอยนางรมสดๆ กรอบๆ กัน
เดินทางถึงดอนสักช่วงบ่ายๆ
แล้วนั่งเรือข้ามฝากไปยังบ้านคนรักนกที่อยู่บริเวณปากอ่าวดอนสัก....เรือน
เรือธนากร ดอนสัก ของเฮียอี้ด หรือลุงอี้ด
ที่ใครหลายท่านรู้จักกันในสนามแข่งนก หลายๆ สนาม หลายๆ
จังหวัดที่ลุงเดินทางไปแข่ง
คนรักนกท่านนี้เป็นผู้อวุโสในวงการเลี้ยงนก ตอนนี้อายุก็ย่างเข้า 70
ปีแล้วยังแข็งแรงและอารมณ์ดี
หนุ่มเรือตังเก บ้านเดิมของลุงอี้ดอยู่ที่
จังหวัดเพชรบุรี ประกอบอาชีพประมง
ออกเรือล่องลอยหาปลาในบริเวณพื้นที่อ่าวไทย เรือธนากร 1 ถึง 9
เรือคู่ใจที่สร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว
ออกเรือในทะเลอ่าวไทย ยามได้ปลาเต็มลำก็นำเข้าไปส่งแพปากน้ำชุมพรบ้าง แพปากน้ำสุราษฎร์บ้าง มาครั้งหนึ่งล่องเรือจากเพชรบุรีถึง
ปากน้ำอ่าวดอนสัก
ด้วยวิสัยทัศน์และถิ่นสภาพพื้นที่ในการประกอบอาชีพทำมาหากิน
ที่นี่ทำเลดีมากสะดวกในการจอดเรือ
ลุงอี้ดเลยพาครอบครัวมาปักหลังสร้างฐานะกันที่นี่ อยู่ดอนสักมาร่วม 20ปีแล้ว และตอนนี้เลยกลายเป็นคนดอนสัก สุราษฎร์ธานีเต็มตัว โดยชื่อบ้านว่า...เรือนเรือธนากร ตอนนี้มีเรือตังเกรวมสิบกว่าลำ
บางลำใช้ลากปลา บางลำดักแปลงเป็นเรือดักปู
(วางลอบปู)
มาถึง...เรือนเรือธนากร เจ้าของบ้านโดย เจ้หมึก หรือป้ารักษ์ ศรีภรรยาของลุงอี้ด จัดน้ำเย็นๆ
มาให้ดื่ม หลังจากนั้นลุงอี้ดพาเดินชมบริเวณบ้านสถานที่เลี้ยงนก และถามไถ่พูดคุยกันประสาคนรักนก เดินชมรอบๆ
บริเวณบ้านเสร็จมานั่งดื่มน้ำที่หน้าบ้านซึ่งเป็นท่าจอดเรือของลุงอี้ด มองไปเห็นปากอ่าวดอนสัก
และบนยอดเขาเจดีย์วัดหลวงพ่อจ้อย
ลุงอี้ด... นายสมศักดิ์ พวงสว่าง
อายุ 70ปี บ้านเดิมคนเมืองเพชรบุรี
บ้านแหลม ต.บางตะบูน
ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 5/1 ม.7 ต.ดอนสัก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี (
บริเวณปากอ่าวดอนสัก )
20
ปี ที่ย้ายมาอยู่ถิ่นฐานใหม่กับศรีภรรยา เจ้หมึก
นางรักษ์ พวงสว่าง
นกแข่งตัวเก่ง...
นกสร้อยเพชร
หรือไอ้ปีกขาว นกปลาเก๋า นกทวน
นกยอดรัก นกโลมา ทั้งหมดนี้เป็นนกเสียงและนกสากล
ส่วนนกนับดอก
นกบ่าวทอน ตัวนี้คว้าถ้วยพระราชทานฯ
ที่สนามวัดไร่ขิงซึ่งในปีนั้นประเภทนับดอกจัดเป็นปีแรก ประมาณปี 53
ถ้าจำไม่ผิด ผลงานของนกบ่าวทอน 4
ใบสำหรับถ้วยพระราชทานฯ
และตัวเก่งอีกตัวคือ
นกแก้วเพชร นกแก้วเพชรเป็นนกมาจากป่าตากแดด และยังมีตัวอื่นๆ
อีกหลายตัวแต่คัดมาเฉพาะตัวเด็ด นกทุกตัวมีประวัติสร้างผลงานมาทั้งนั้น
ถ้วยพระราชทานฯ รวมๆ ทั้งสากล-เสียงทอง-นับดอก ร่วมสิบกว่าใบ อีกอย่านกที่ลุงอี้ดนำมาเลี้ยงดูทุกๆ
วันนี้แบ่งๆ มาราคาไม่แพงแค่หลัก 2-3พัน บางตัวมองหามาจากราวแข่งบ้านๆ
แต่ด้วยที่การเลี้ยงดูและเอาใจไส่ดูแลฝึกฝนนกมั่นซ้อมนกร่วม
20กว่าปีนกเหล่านี้ที่ลุงรักสร้างผลงานมาแทบทั้งสิ้น จากการที่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัว ลุงอี้ด
เป็นคนอัถยาสัยดี
และมีอะไรที่น่าติดตามค้นหาเยอะ
หากจะเล่าในที่นี้ก็หลายหน้ากระดาษอยุ่กว่าจะจบ พบปะลุงในสนามแข่งลองถามไถ่พูดคุยกันได้เผื่อมีอะไรดีๆ
เกี่ยวกับการเลี้ยงนก
เรื่องการเลี้ยงนก ลุงอี้ดเลี้ยงแบบธรรมชาติ อาหารที่ให้ก็เป็นผลไม้ตามธรรมชาตินี้แหละ ตัวใหนชอบอะไร ไม่ชอบกินอะไร
ก็ให้ตามที่จากการสังเกตนิสัยนกตัวนั่นๆ
ส่วนอาหารเม็ดเป็นอาหารเสริมให้มากน้อย
ขึ้นอยู่กับนกตัวนั้นๆ
นกบางส่วนเลี้ยงด้วยกรงปกติ
บางส่วนเป็นกรงเพาะเลี้ยงหมายถึงกรงตั้งพื้นมุงหลังคาขนาดใหญ่มีต้นไม้ในกรงสร้างเลียนแบบธรรมชาติ บวกๆ อาหารที่นกได้กินนกเลยอารมณ์ไม่เครียจและแข็งแรง
สำหรับเรื่องอาหาร
เป็นสูตรอาหารและเทคนิคการเลี้ยงของแต่ละท่าน
เป็นเรื่องส่วนตัวที่บางท่านขอสงวนเก็บเป็นความลับ
จากการที่ได้มาเยี่ยมบ้านลุงอี้ดครั้งนี้ก็เพราะได้ติดตามผลงานลุงมานานแล้ว เคยเจอกันในสนามแข่งหลายๆ จังหวัด
ในบางจังหวัดลุงแกเดินทางไปแข่งคนเดียวก็มี อย่างงานถ้วยพระราชทานทุกสนามถ้าไม่ติดขัดอะไรลุงไปทุกครั้ง
และส่วนวัดไร่ขิงนี้ต้องไปทุกครั้งที่จัดขาดไม่ได้เพราะเป็นงานระดับประเทศตั้งแต่เริ่มเดิมที
อยู่บริเวณพื้นที่ติดแม่น้ำแล้วการเดินทางไปแข่งนกละ มีทีมงานคือ คุณเบิ้ม และคุณสิทธิ์ พูดเปรยๆ ว่าถ้าอยากจะเห็นอะไรดีๆ
ต้องมาตอนเช้าๆ ก่อนจะไปแข่งนกแล้วจะรู้
วันนั้นก็เลยค้างที่ดอนสัก รอรุ่งเช้าอีกวันเพื่อรอเก็บภาพเด็ดๆ
ของลุงอี้ด และสิ่งที่เห็นทำเอาอึ้งไปเลย
คือ..ลุงอี้ด
ออกจากบ้านนำนกลงเรือข้ามฟากเดินทางทางไปแข่งนกมาตัวคนเดียวเต็มลำเรือ สมกับที่เป็น..หนุ่มตังเก จริงๆๆ
บรรยากาศแบบนี้น้อยท่านที่จะได้เห็น สำหรับการนำเสนอ ลุงอี้ด
นี้ขอไม่ลงเบอร์โทรก็แล้วกัน
เพราะว่าจะไปรบกวนเวลาทำงานอาชีพส่วนตัวไม่สะดวกกับการพูดคุยทางโทรศัพท์
ทักทายกันได้ที่สนามแข่ง
หรือพบปะเจอะเจอกันที่ใหนๆ
อีกอย่างลุงก็อายุมากแล้วด้วย
เยี่ยมบ้านคนรักนกเสร็จ....
ไปไหว้พระคู่เมืองดอนสัก โดย...คุณเบิ้ม ท้องอ่าว ทำหน้าที่อาสาขับรถพาไป
วัดหลวงพ่อจ้อย หรือ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ท่านเจ้าคุณ พระกิตติมงคลพิพัฒน์
ท่านมีนามเดิมว่า จ้อย นามสกุล พันธุ์อุดม
เป็นพระนักพัฒนา ท่านได้ดำเนินการพัฒนาท้องถิ่นมีเป็นจำนวนมาก
จนสามารถกล่าวได้อย่างสนิทใจ และภาคภูมิใจว่า ดอนสักทั้งดอนสัก เจริญรุ่งเรืองเป็นดอนสักได้นั้น
ล้วนแล้วแต่เป็นผลงานที่หลวงพ่อจ้อยได้สร้างแทบทั้งสิ้น
หลวงพ่อจ้อย
ท่านได้สร้างคุณูปการทั้งแก่พระพุทธศาสนา ประเทศชาติ สังคม และประชาชนมากมาย
จนชื่อเสียงเกียรติคุณของท่านได้รับการเลื่องลือกล่าวสรรเสริญไปทั่วทุกสารทิศ
จนถึงกับได้รับเลื่อนสมณศักดิ์เพื่อเป็นเกียรติ บูชาคุณงามความดีของท่าน
พ่อหลวงจ้อยกับราชวงศ์
ในช่วงระยะเวลา 46 ปีที่พระกิตติมงคลพิพัฒน์จำพรรษาอยู่
ณ วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ บารมีของท่านเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ ได้เสด็จมาประกอบพิธีต่าง ๆ
มณฑปหลวงพ่อจ้อย" ไว้เป็นอนุสรณ์สถาน
เพื่อให้ทุกท่านได้สักการะบูชาที่ "วัดเขาสุวรรณประดิษฐ์" ต.ดอนสัก
อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในอันที่จะสรรค์สร้างคุณงามความดี
เจริญรอยตามจริยาอันดีงามของท่าน ซึ่งปัจจุบันมีศิษญานุศิษย์ ข้าราชการ พ่อค้า
และประชนหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสาระทิศมาสักการะบูชาอยู่ทุกวัน จนแทบจะกล่าวได้ว่า "กลิ่นธูป
แสงเทียน ไม่เคยขาดหายไปจากมณฑปหลวงพ่อจ้อย" อย่างแท้จริง ปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าร่างกายของท่านเจ้าคุณพระกิตติมงคลพิพัฒน์
(จ้อย ฐิตปุญฺโญ มหาเภระ) จะได้มรณภาพไปแล้วตามธรรมชาติของสังขาร แต่คุณงามความดี บารมีธรรม
ผลงานที่ท่านได้สร้างไว้ให้เป็นมรดกของชาวดอนสัก ชาวสุราษฎร์ธานี
ของชาวพุทธทั่วทั้งโลกทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่ยังคงจารึกมั่นอยู่ในความทรงจำ
ในจิตใจ ของประชาชนชาวสุราษฎร์ธานี และของชาวพุทธทั้งโลกอย่างไม่มีวันเสื่อมคลาย และที่กล่าวมานี้คือ..วัดสุวรรณประดิษฐ์ อำเภอดอนสัก จังหวัดสุราษฎร์ธานี
.....................................................................
สุดท้ายมา.... เมืองหอยใหญ่ ทั้งทีต้องไปทานหอยนางรมตัวใหญ่ๆ กรอบๆ
หวานไม่มีกลิ่นคาว
หอยนางที่สุราษฎร์นี้ อร่อยสมคำเล่าลือ
จึงได้ติดอยู่ในคำขวัญประจำจังหวัด และถิ่นที่มีมากที่สุดก็คือ อำเภอกาญจนดิษฐ์
รวมถึงฟาร์มเพราะเลี้ยง และหาซื้อกินได้ในราคาที่ถูก ถ้ามาตรงช่วงฤดูกาล
หอยนางรมตัวใหญ่ๆ
น้ำจิ้มซีฟุ้ด หอมเจียว กระเทียมสด ยอดกระถินอ่อนๆ สดๆ
แค่เพียงได้ลิ้มรสแม้เพียงตัวเดียวก็ติดใจไปนานแสนนาน
สำหรับสกุ๊ปนี้ได้อัถรสในการอ่าน เพื่อความหลากหลาย ลดความจำแจกับรูปแบบ
และสิ่งเดิมๆ เราสร้างสรรค์เพื่อให้ชาวนกกรงหัวจุก แฟนๆ ลุยสนามนก ได้รับข่าวสารสาระ
ในการนำเสนอตามถนัดของแต่ละผู้เขียน
สิ่งใดๆ ที่แฟนๆ ผู้อ่านไม่รู้ ไม่เคยเห็น ไม่เคยทราบ ทางทีมงานจะไปเจาะไปลุยนำมาให้ทุกๆ
ท่านได้ชมได้อ่านกัน ท่านไม่ทิ้งเรา
เราไม่ทิ้งท่าน
ครับ...สำหรับสกุ๊ปหน้าติดตามเมืองร้อยเกาะกันต่อว่า ปักษาสวรรค์
จะบินไปเจาะ ณ เมืองใด เมืองเงาะอร่อย
หรือเมืองไข่แดง
หรือว่าเมืองแห่งธรรมะ
ต้องรอติดตามกันนะครับ
สำหรับวันนี้นี้ต้องลาไปก่อน ด้วยสาระเมืองหอยใหญ่ ของ จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเจอกันสกุ๊ปหน้า ครับ
ขอขอบคุณ
คุณเบิ้ม ท้องอ่าว
ที่พาทัวร์เมืองดอนสัก
ขอขอบคุณ คุณสิทธิ์ รถสองแถวกลางวัน
สหกรณ์เดินรถเกาะสมุย สำหรับการเดินทางครั้งนี้
และขอขอบคุณแฟนๆ
ปักษาสวรรค์ ลุยสนามนก ทุกๆ ท่านที่ติดตามด้วยดีเสมอมา
จากทีมงาน
ลุยสนามนก
ปักษาสวรรค์
(
วสันต์ สมุย ) 08-8826-4410